เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทำถึง! เปิดให้ลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ Exotic ในคอนโดได้เป็นเจ้าแรกในไทย
LivingInsider Report
15 มี.ค. 2567

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตัวจริงที่อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ได้ทุกโครงการ เปิด MAJOR Pet Family Residences : Exotic Pet แบรนด์แรกและครั้งแรกของไทยที่อนุญาตให้เลี้ยง “สัตว์เลี้ยงทางเลือก” ได้อย่างเป็นทางการ นำร่องโครงการแรก “เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว” เซตมาตรฐานการก่อสร้างแบบครบวงจร ทั้งดีไซน์ห้องชุดและส่วนกลางเพื่อสัตว์เลี้ยงทางเลือก พร้อมผนึกรพ.สัตว์ทองหล่อ ให้บริการและดูแลสัตว์เลี้ยงทุกประเภท
คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ในช่วง 2-3 ปี มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จากข้อมูลของ TGM Research พบว่าคนทั่วโลกกว่า 58% นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว โดยเลี้ยงเพียง 1 ตัว คิดเป็น 46% แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ประเทศไทยมีอัตราเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสูงกว่าค่าเฉลี่ยเทียบเป็น 73% และนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพียง 1 ตัวต่อครอบครัวเฉลี่ย 45% แต่กลับพบกว่าคนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์ 2 ตัวต่อครอบครัวสูงถึง 23% และ 4 ตัวขึ้นถึง 24%
เห็นได้ชัดว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนคนเลี้ยงสัตว์ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทั่วโลก ทั้งในค่านิยมและปริมาณต่อครอบครัว ที่ผ่านมาเราได้ประกาศความตั้งใจที่มุ่งมั่นเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง โดยสร้างมาตรฐานใหม่ MAJOR Pet Family Residences เป็นแบรนด์แรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกบ้าน ทั้งในส่วนของกลุ่มลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ และลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยง ซึ่งพบว่าสัดส่วนของลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์นั้น มีจำนวนที่มากขึ้นกว่าปี 2022 เป็น 45% และในจำนวนดังกล่าวเป็นสัตว์เลี้ยงทางเลือก ที่ปรากฏเข้ามา
ทางเมเจอร์ฯ จึงได้เล็งเห็นถึงความนิยมที่ขยายตัวของลูกบ้าน สอดคล้องกับเทรนด์การเลือกเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทางเลือกของคนไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เราจึงพร้อมที่จะขยายขอบเขตครอบครัวเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ สู่ “MAJOR Pet Family Residences : Exotic Pet” โดยนับว่าเราเป็นแบรนด์แรกและครั้งแรกของไทยที่อนุญาตให้เลี้ยง “สัตว์เลี้ยงทางเลือก” ได้อย่างเป็นทางการ
พร้อมทั้งขยายขอบเขตการดำเนินการทั้งในส่วนการก่อสร้างโครงการ กิจกรรมลูกบ้าน รวมทั้งการบริการและการดูแลแบบครบวงจร เริ่มต้นในด้านการก่อสร้าง และการดีไซน์ฟังก์ชันของห้องชุดและพื้นที่ส่วนกลาง ตัวอย่างโครงการ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว (METRIS District Ladprao) ที่ออกแบบโดยเน้นเรื่อง Craft & Quality ควบคู่กับฟังก์ชัน Pet-Friendly ภายใต้การคำนึงถึงคุณภาพชีวิตและสุขลักษณะที่ดีของสัตว์เลี้ยงเป็นสำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Multi-Pet Playroom พื้นที่พิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงทางเลือกที่แยกส่วนอย่างชัดเจน
โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ มาร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ความรู้ เพื่อให้แบรนด์เข้าใจธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงกลุ่มนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันเราได้เตรียมดีไซน์ฟังก์ชัน เพื่อรองรับพฤติกรรมต่าง ๆ ของสัตว์เลี้ยงทางเลือกได้อย่างเหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะนำความสำเร็จของ Multi-Pet Playroom ขยายสู่โครงการอื่น ๆ ภายใต้การพัฒนา
ของแบรนด์ในอนาคตมากยิ่งขึ้น
ด้านข้อกำหนดและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ขยายขอบเขตของ Petscape เพื่อตอบรับกลุ่มสัตว์เลี้ยงทางเลือก โดยแบ่งออกเป็นหมวด อาทิ ประเภทของสัตว์เลี้ยง การลงทะเบียนสมาชิก พื้นที่ใช้สอย การดูแลรักษา เป็นต้น เพื่อกำหนดเเนวทางการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างสัตว์เลี้ยงทางเลือกกับลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์อื่น ๆ และลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ได้อย่างสมดุลและลงตัวที่สุด รวมทั้งเตรียมขยายกิจกรรมสีสันความสนุกและสิทธิประโยชน์ความพิเศษที่มีให้กับลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงทางเลือกโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การบริการและการดูแลสัตว์เลี้ยง ซึ่งทางเมเจอร์ฯ มีโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
เป็นพันธมิตรมาอย่างยาวนาน ซึ่งช่วยซัพพอร์ตในการบริการและดูแลสัตว์เลี้ยงทุกประเภทให้กับลูกบ้านเมเจอร์ฯ มาโดยตลอด และในครั้งนี้ยังได้ขยายความเชี่ยวชาญมายังกลุ่มใหม่อย่างสัตว์เลี้ยงทางเลือก
ด้าน สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า นับเป็นความตั้งใจของโรงพยาบาลที่ต้องการรองรับและให้บริการการดูแลรักษาสัตว์ทุกประเภทให้มีสุขภาวะและสุขอนามัยที่ดี เพราะเราเชื่อมั่นว่าคนที่เลี้ยงสัตว์มองว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว โดยครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ดีที่เราได้ขยายขอบเขตความร่วมมือในการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงให้ลูกบ้านเมเจอร์ฯ มากยิ่งขึ้น
ล่าสุด เราได้เปิดศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยงพิเศษ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ โรงพยาบาลสัตว์อันดับ 1 ของประเทศไทย และโรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการรักษาสัตว์เลี้ยงทางเลือก (Exotic pet) โดยสาขาแรกที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาพระราม 9 ซึ่งเป็นศูนย์ส่งต่อสัตว์ป่วย (Referral center) ที่ใหญ่ที่สุด โดดเด่นทั้งในด้านการบริการดูแลและรักษาด้วยเครื่องมือในการวินิจฉัยโรคที่ครบครัน อาทิ เครื่อง MRI และ CT Scan เป็นต้น
ทางด้าน น.สพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ กล่าวว่า ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของสัตวแพทย์และบุคลากรที่ให้การดูแลและบริการด้านสัตว์เลี้ยงทางเลือกโดยเฉพาะ อาทิ กระต่าย กระรอก หนูเควี่ ชินชิล่า เป็นต้น ทำให้เจ้าของสามารถอุ่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงทางเลือกจะได้รับการดูแลวินิจฉัยและรักษาอย่างดีที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญก่อนการเริ่มต้นเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทางเลือก คือ เจ้าของต้องศึกษาวิธีการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงทางเลือกอย่างเหมาะสม ทั้งในด้านของอาหารการกิน และสถานที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับแต่ละประเภท และสุดท้าย คือ ความรับผิดชอบและความรัก ที่มีต่อสัตว์ที่เลี้ยงไม่ว่าประเภทใดก็ตาม
คุณเพชรลดา กล่าวสรุปว่า “การขยายขอบเขตครอบครัว MAJOR Pet Family Residences : Exotic Pet พร้อมทั้ง
ความมุ่งมั่นในการร่วมมือครั้งสำคัญของ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ No.1 Pet Family Residences และ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ No.1 Pet Hospital จะเป็นการสะท้อนภาพความตั้งใจของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ว่าเราให้ความสำคัญและใส่ใจในอินไซต์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ
และต่อจากนี้เราขอสัญญาว่าเราจะยังเน้นย้ำและพัฒนาโครงการภายใต้การผนวกกลยุทธ์ Lifescape และ Petscape และมาตรฐานของ Craft & Quality เข้าไปกับ Pet-friendly function และสัญญา ว่าจะคิดถึงความสุขของคุณและน้อง ๆ เพื่อดูแลครอบครัวนี้อย่างดีที่สุดตลอดไป”
บทความแนะนำ

แสนสิริ ปักหมุด “โซนทองหล่อภูเก็ต” เตรียมพัฒนาโครงการใหม่บนทำเลบางเทา–เชิงทะเล
เปิดเผยแล้ว!! พิกัดทำเลพัฒนาโครงการของแสนสิริ ในย่านบางเทา–เชิงทะเล ซึ่งนับเป็นโซนทองหล่อ ภูเก็ต จากการเป็นทำเลยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีชายหาดที่สวยงามและเป็นหาดที่ยาวเป็นอันดับสองในภูเก็ต รวมทั้งยังมีความโดดเด่นในการเดินทางเชื่อมทำเลอื่น ๆ ของภูเก็ตได้สะดวก ตอกย้ำความแข็งแกร่ง 40 ปีแห่งความสำเร็จของแสนสิริ ที่จะเดินหน้าต่อด้วยแนวคิด Resilient Growth หรือยืนหยัด ยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสนสิริเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะ “ภูเก็ต” ซึ่งเป็น Strategic Location ของแสนสิริ จากศักยภาพของภูเก็ตในการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและเป็นจังหวัดที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย หรือ World Class Tourist Destination ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการท่องเที่ยวและแผนการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์จากภาครัฐ แสนสิริเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาอย่างยาวนาน และได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดภูเก็ตมากว่า 15 ปี ผ่านโครงการแนวราบและแนวสูงรวม 21 โครงการ มูลค่าการลงทุนสะสม 21,000 ล้านบาท สามารถตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มลูกค้า ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ในทุกโปรดักต์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทุกทำเลในภูเก็ต ซึ่งนอกจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว แสนสิริยังมีความมุ่งมั่นตามแนวคิดการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างยั่งยืน โดยนำเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นต่าง ๆ มาผสานในการออกแบบโครงการ รวมถึงมุ่งมั่นร่วมสืบสานประเพณีสำคัญระดับโลกอย่างประเพณีถือศีลกินผักซึ่งนับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของภูเก็ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ตลอดจนส่งเสริมเยาวชนในพื้นที่ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพผ่านโครงการ Sansiri Academy ที่ได้ร่วมส่งเสริมสร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็ก และเยาวชนในพื้นที่กว่า 5,000 คน เพื่อให้น้อง ๆ เยาวชนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์จากการเล่นกีฬา และพัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอลและฝึกซ้อมที่ถูกต้อง สามารถพัฒนาเป็นนักเตะมืออาชีพได้ในอนาคต ที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กที่ภูเก็ต โดยการพาอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไปร่วมลงพื้นที่ถ่ายทอดประสบการณ์ให้เด็ก ๆ อย่างต่อเนื่องในทุกปี สำหรับแผนธุรกิจของแสนสิริที่ภูเก็ตในปีนี้ วางเป้าหมายพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบรับได้ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าในภูเก็ตได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ราคาเริ่มต้น 1.79-50 ล้านบาท พร้อมบริการ หรือ Sansiri Service รูปแบบใหม่ ที่มุ่งดูแลครอบครัวแสนสิริตลอดการอยู่อาศัย เพื่อสร้างความอุ่นใจ ปลอดภัย และสะดวกสบายในการอยู่อาศัยในโครงการแสนสิริ โดยล่าสุด บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (บริษัทในเครือของแสนสิริที่ดูแลบริการหลังการขาย) ได้ขยายธุรกิจใหม่ Villa Management นำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ครอบคลุมบริการ Property Care Elite ดูแลทรัพย์สินแบบครบวงจร นอกจากนี้ยังมี Property Care On Demand ที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการตามความต้องการอีกด้วย แผนธุรกิจของแสนสิริ ไม่เฉพาะการพัฒนาโครงการในภูเก็ต แต่ยังเดินหน้าภายใต้การยืนยันเจตนารมย์แนวทางการพัฒนาโครงการในภูเก็ตที่ต้องควบคู่การเดินหน้าดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ภูเก็ต อาทิ บ้านนวัตกรรมสีเขียว ที่ประหยัดพลังงานได้, Construction Waste หรือการบริหารจัดการขยะในไซต์งานก่อสร้างให้มีน้อยที่สุดและนำกลับมาไปใช้ใหม่ได้อีกครั้งหรือใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า, การสร้างสังคมที่ยั่งยืนในภูเก็ต รวมทั้ง Sansiri Academy โครงการเสริมสร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชนที่เตรียมทำต่อเนื่อง โดยรายละเอียดโครงการใหม่ในภูเก็ตของแสนสิริเตรียมเปิดเผยต่อไป

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทำถึง! เปิดให้ลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ Exotic ในคอนโดได้เป็นเจ้าแรกในไทย
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตัวจริงที่อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ได้ทุกโครงการ เปิด MAJOR Pet Family Residences : Exotic Pet แบรนด์แรกและครั้งแรกของไทยที่อนุญาตให้เลี้ยง “สัตว์เลี้ยงทางเลือก” ได้อย่างเป็นทางการ นำร่องโครงการแรก “เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว” เซตมาตรฐานการก่อสร้างแบบครบวงจร ทั้งดีไซน์ห้องชุดและส่วนกลางเพื่อสัตว์เลี้ยงทางเลือก พร้อมผนึกรพ.สัตว์ทองหล่อ ให้บริการและดูแลสัตว์เลี้ยงทุกประเภท คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ในช่วง 2-3 ปี มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จากข้อมูลของ TGM Research พบว่าคนทั่วโลกกว่า 58% นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว โดยเลี้ยงเพียง 1 ตัว คิดเป็น 46% แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ประเทศไทยมีอัตราเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสูงกว่าค่าเฉลี่ยเทียบเป็น 73% และนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพียง 1 ตัวต่อครอบครัวเฉลี่ย 45% แต่กลับพบกว่าคนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์ 2 ตัวต่อครอบครัวสูงถึง 23% และ 4 ตัวขึ้นถึง 24% เห็นได้ชัดว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนคนเลี้ยงสัตว์ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทั่วโลก ทั้งในค่านิยมและปริมาณต่อครอบครัว ที่ผ่านมาเราได้ประกาศความตั้งใจที่มุ่งมั่นเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง โดยสร้างมาตรฐานใหม่ MAJOR Pet Family Residences เป็นแบรนด์แรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกบ้าน ทั้งในส่วนของกลุ่มลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ และลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยง ซึ่งพบว่าสัดส่วนของลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์นั้น มีจำนวนที่มากขึ้นกว่าปี 2022 เป็น 45% และในจำนวนดังกล่าวเป็นสัตว์เลี้ยงทางเลือก ที่ปรากฏเข้ามา ทางเมเจอร์ฯ จึงได้เล็งเห็นถึงความนิยมที่ขยายตัวของลูกบ้าน สอดคล้องกับเทรนด์การเลือกเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทางเลือกของคนไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เราจึงพร้อมที่จะขยายขอบเขตครอบครัวเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ สู่ “MAJOR Pet Family Residences : Exotic Pet” โดยนับว่าเราเป็นแบรนด์แรกและครั้งแรกของไทยที่อนุญาตให้เลี้ยง “สัตว์เลี้ยงทางเลือก” ได้อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งขยายขอบเขตการดำเนินการทั้งในส่วนการก่อสร้างโครงการ กิจกรรมลูกบ้าน รวมทั้งการบริการและการดูแลแบบครบวงจร เริ่มต้นในด้านการก่อสร้าง และการดีไซน์ฟังก์ชันของห้องชุดและพื้นที่ส่วนกลาง ตัวอย่างโครงการ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว (METRIS District Ladprao) ที่ออกแบบโดยเน้นเรื่อง Craft & Quality ควบคู่กับฟังก์ชัน Pet-Friendly ภายใต้การคำนึงถึงคุณภาพชีวิตและสุขลักษณะที่ดีของสัตว์เลี้ยงเป็นสำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Multi-Pet Playroom พื้นที่พิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงทางเลือกที่แยกส่วนอย่างชัดเจน โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ มาร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ความรู้ เพื่อให้แบรนด์เข้าใจธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงกลุ่มนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันเราได้เตรียมดีไซน์ฟังก์ชัน เพื่อรองรับพฤติกรรมต่าง ๆ ของสัตว์เลี้ยงทางเลือกได้อย่างเหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะนำความสำเร็จของ Multi-Pet Playroom ขยายสู่โครงการอื่น ๆ ภายใต้การพัฒนา ของแบรนด์ในอนาคตมากยิ่งขึ้น ด้านข้อกำหนดและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ขยายขอบเขตของ Petscape เพื่อตอบรับกลุ่มสัตว์เลี้ยงทางเลือก โดยแบ่งออกเป็นหมวด อาทิ ประเภทของสัตว์เลี้ยง การลงทะเบียนสมาชิก พื้นที่ใช้สอย การดูแลรักษา เป็นต้น เพื่อกำหนดเเนวทางการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างสัตว์เลี้ยงทางเลือกกับลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์อื่น ๆ และลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ได้อย่างสมดุลและลงตัวที่สุด รวมทั้งเตรียมขยายกิจกรรมสีสันความสนุกและสิทธิประโยชน์ความพิเศษที่มีให้กับลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงทางเลือกโดยเฉพาะ นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การบริการและการดูแลสัตว์เลี้ยง ซึ่งทางเมเจอร์ฯ มีโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เป็นพันธมิตรมาอย่างยาวนาน ซึ่งช่วยซัพพอร์ตในการบริการและดูแลสัตว์เลี้ยงทุกประเภทให้กับลูกบ้านเมเจอร์ฯ มาโดยตลอด และในครั้งนี้ยังได้ขยายความเชี่ยวชาญมายังกลุ่มใหม่อย่างสัตว์เลี้ยงทางเลือก ด้าน สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า นับเป็นความตั้งใจของโรงพยาบาลที่ต้องการรองรับและให้บริการการดูแลรักษาสัตว์ทุกประเภทให้มีสุขภาวะและสุขอนามัยที่ดี เพราะเราเชื่อมั่นว่าคนที่เลี้ยงสัตว์มองว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว โดยครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ดีที่เราได้ขยายขอบเขตความร่วมมือในการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงให้ลูกบ้านเมเจอร์ฯ มากยิ่งขึ้น ล่าสุด เราได้เปิดศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยงพิเศษ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ โรงพยาบาลสัตว์อันดับ 1 ของประเทศไทย และโรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการรักษาสัตว์เลี้ยงทางเลือก (Exotic pet) โดยสาขาแรกที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาพระราม 9 ซึ่งเป็นศูนย์ส่งต่อสัตว์ป่วย (Referral center) ที่ใหญ่ที่สุด โดดเด่นทั้งในด้านการบริการดูแลและรักษาด้วยเครื่องมือในการวินิจฉัยโรคที่ครบครัน อาทิ เครื่อง MRI และ CT Scan เป็นต้น ทางด้าน น.สพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ กล่าวว่า ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของสัตวแพทย์และบุคลากรที่ให้การดูแลและบริการด้านสัตว์เลี้ยงทางเลือกโดยเฉพาะ อาทิ กระต่าย กระรอก หนูเควี่ ชินชิล่า เป็นต้น ทำให้เจ้าของสามารถอุ่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงทางเลือกจะได้รับการดูแลวินิจฉัยและรักษาอย่างดีที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญก่อนการเริ่มต้นเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทางเลือก คือ เจ้าของต้องศึกษาวิธีการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงทางเลือกอย่างเหมาะสม ทั้งในด้านของอาหารการกิน และสถานที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับแต่ละประเภท และสุดท้าย คือ ความรับผิดชอบและความรัก ที่มีต่อสัตว์ที่เลี้ยงไม่ว่าประเภทใดก็ตาม คุณเพชรลดา กล่าวสรุปว่า “การขยายขอบเขตครอบครัว MAJOR Pet Family Residences : Exotic Pet พร้อมทั้ง ความมุ่งมั่นในการร่วมมือครั้งสำคัญของ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ No.1 Pet Family Residences และ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ No.1 Pet Hospital จะเป็นการสะท้อนภาพความตั้งใจของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ว่าเราให้ความสำคัญและใส่ใจในอินไซต์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ และต่อจากนี้เราขอสัญญาว่าเราจะยังเน้นย้ำและพัฒนาโครงการภายใต้การผนวกกลยุทธ์ Lifescape และ Petscape และมาตรฐานของ Craft & Quality เข้าไปกับ Pet-friendly function และสัญญา ว่าจะคิดถึงความสุขของคุณและน้อง ๆ เพื่อดูแลครอบครัวนี้อย่างดีที่สุดตลอดไป”

The Cube Plus Phahonyothin 56 ขานรับ EIA APPROVED ให้ข้อเสนอสูงสุด 1 แสนบาท*
The Cube Plus Phahonyothin 56 ขานรับ EIA APPROVED ให้ข้อเสนอสูงสุด 1 แสนบาท* The Cube Plus Phahonyothin 56 (เดอะคิวบ์ พลัส พหลโยธิน 56) คอนโดมิเนียมสไตล์โมเดิร์นโลว์โรส์สูง 7 ชั้น 1 อาคาร ทำเลมีศักยภาพใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานที กม.25 (ซอยพหลโยธิน 56) พัฒนาและบริหารงานโดย บริษัท คิวบ์ เรียล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตอบรับผลการอนุมัติ EIA APPROVED (Environmental Impact Assessment) ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จากสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) มอบข้อเสนอพิเศษสุดที่สูงกว่าใครถึง 100,000 บาท* และให้ผ่อนสบายเพียง 3,900 บาท* มีขนาดตั้งแต่ 25 - 34 ตร.ม. พร้อมเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูงจาก Modernform ครบทุกฟังก์ชั่น (Fully Furnished) ห้องโปร่งสบายกับเพดานสูงถึง 2.70 เมตร และให้ความเป็นส่วนตัวสูงจากจำนวนยูนิตที่ไม่เยอะมากเกินไป พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โคเวิร์กกิ้งสเปซ (Co working space) ระบบอินเตอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi Internet) บริเวณโถงล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลาง สระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องฟิตเนส ห้องซาวน่า (แยกชาย/หญิง) สวนหย่อม กล้องวงจรปิด CCTV รอบโครงการ คีย์การ์ด (Key Card) เข้าออกอาคาร และลิฟท์แบบล็อคชั้น ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. มีความปลอดภัยสูงและให้ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตทั้งครอบครัว เน้นคุณภาพของวัสดุและทุกขั้นตอนการก่อสร้างและทุกระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานโครงสร้างคอนโดมิเนียม ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (สถานี กม.25 ในอนาคต) สังคมโดยรอบโครงการหน้าอยู่ สะอาด ปลอดภัย ใกล้หน่วยงานราชการคือ กองทัพอากาศ สถาบันการศึกษาทุกระดับ สนามบินดอนเมือง โรงพยาบาล ศูนย์การค้า และแหล่งงาน ชมห้องตัวอย่างได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุด สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1246 (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) และติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ของโครงการได้ทาง www.facebook.com/TheCubeCondominium เว็บไซต์ www.thecube-condo.com

แสนสิริ ปักหมุด “โซนทองหล่อภูเก็ต” เตรียมพัฒนาโครงการใหม่บนทำเลบางเทา–เชิงทะเล
เปิดเผยแล้ว!! พิกัดทำเลพัฒนาโครงการของแสนสิริ ในย่านบางเทา–เชิงทะเล ซึ่งนับเป็นโซนทองหล่อ ภูเก็ต จากการเป็นทำเลยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีชายหาดที่สวยงามและเป็นหาดที่ยาวเป็นอันดับสองในภูเก็ต รวมทั้งยังมีความโดดเด่นในการเดินทางเชื่อมทำเลอื่น ๆ ของภูเก็ตได้สะดวก ตอกย้ำความแข็งแกร่ง 40 ปีแห่งความสำเร็จของแสนสิริ ที่จะเดินหน้าต่อด้วยแนวคิด Resilient Growth หรือยืนหยัด ยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสนสิริเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะ “ภูเก็ต” ซึ่งเป็น Strategic Location ของแสนสิริ จากศักยภาพของภูเก็ตในการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและเป็นจังหวัดที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย หรือ World Class Tourist Destination ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการท่องเที่ยวและแผนการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์จากภาครัฐ แสนสิริเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาอย่างยาวนาน และได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดภูเก็ตมากว่า 15 ปี ผ่านโครงการแนวราบและแนวสูงรวม 21 โครงการ มูลค่าการลงทุนสะสม 21,000 ล้านบาท สามารถตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มลูกค้า ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ในทุกโปรดักต์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทุกทำเลในภูเก็ต ซึ่งนอกจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว แสนสิริยังมีความมุ่งมั่นตามแนวคิดการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างยั่งยืน โดยนำเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นต่าง ๆ มาผสานในการออกแบบโครงการ รวมถึงมุ่งมั่นร่วมสืบสานประเพณีสำคัญระดับโลกอย่างประเพณีถือศีลกินผักซึ่งนับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของภูเก็ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ตลอดจนส่งเสริมเยาวชนในพื้นที่ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพผ่านโครงการ Sansiri Academy ที่ได้ร่วมส่งเสริมสร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็ก และเยาวชนในพื้นที่กว่า 5,000 คน เพื่อให้น้อง ๆ เยาวชนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์จากการเล่นกีฬา และพัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอลและฝึกซ้อมที่ถูกต้อง สามารถพัฒนาเป็นนักเตะมืออาชีพได้ในอนาคต ที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กที่ภูเก็ต โดยการพาอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไปร่วมลงพื้นที่ถ่ายทอดประสบการณ์ให้เด็ก ๆ อย่างต่อเนื่องในทุกปี สำหรับแผนธุรกิจของแสนสิริที่ภูเก็ตในปีนี้ วางเป้าหมายพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบรับได้ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าในภูเก็ตได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ราคาเริ่มต้น 1.79-50 ล้านบาท พร้อมบริการ หรือ Sansiri Service รูปแบบใหม่ ที่มุ่งดูแลครอบครัวแสนสิริตลอดการอยู่อาศัย เพื่อสร้างความอุ่นใจ ปลอดภัย และสะดวกสบายในการอยู่อาศัยในโครงการแสนสิริ โดยล่าสุด บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (บริษัทในเครือของแสนสิริที่ดูแลบริการหลังการขาย) ได้ขยายธุรกิจใหม่ Villa Management นำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ครอบคลุมบริการ Property Care Elite ดูแลทรัพย์สินแบบครบวงจร นอกจากนี้ยังมี Property Care On Demand ที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการตามความต้องการอีกด้วย แผนธุรกิจของแสนสิริ ไม่เฉพาะการพัฒนาโครงการในภูเก็ต แต่ยังเดินหน้าภายใต้การยืนยันเจตนารมย์แนวทางการพัฒนาโครงการในภูเก็ตที่ต้องควบคู่การเดินหน้าดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ภูเก็ต อาทิ บ้านนวัตกรรมสีเขียว ที่ประหยัดพลังงานได้, Construction Waste หรือการบริหารจัดการขยะในไซต์งานก่อสร้างให้มีน้อยที่สุดและนำกลับมาไปใช้ใหม่ได้อีกครั้งหรือใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า, การสร้างสังคมที่ยั่งยืนในภูเก็ต รวมทั้ง Sansiri Academy โครงการเสริมสร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชนที่เตรียมทำต่อเนื่อง โดยรายละเอียดโครงการใหม่ในภูเก็ตของแสนสิริเตรียมเปิดเผยต่อไป