แสนสิริ ปักหมุด “โซนทองหล่อภูเก็ต” เตรียมพัฒนาโครงการใหม่บนทำเลบางเทา–เชิงทะเล
LivingInsider Report
14 มี.ค. 2567

เปิดเผยแล้ว!! พิกัดทำเลพัฒนาโครงการของแสนสิริ ในย่านบางเทา–เชิงทะเล ซึ่งนับเป็นโซนทองหล่อ ภูเก็ต จากการเป็นทำเลยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีชายหาดที่สวยงามและเป็นหาดที่ยาวเป็นอันดับสองในภูเก็ต
รวมทั้งยังมีความโดดเด่นในการเดินทางเชื่อมทำเลอื่น ๆ ของภูเก็ตได้สะดวก ตอกย้ำความแข็งแกร่ง 40 ปีแห่งความสำเร็จของแสนสิริ ที่จะเดินหน้าต่อด้วยแนวคิด Resilient Growth หรือยืนหยัด ยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสนสิริเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต
โดยเฉพาะ “ภูเก็ต” ซึ่งเป็น Strategic Location ของแสนสิริ จากศักยภาพของภูเก็ตในการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและเป็นจังหวัดที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย หรือ World Class Tourist Destination ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการท่องเที่ยวและแผนการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์จากภาครัฐ
แสนสิริเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาอย่างยาวนาน และได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดภูเก็ตมากว่า 15 ปี ผ่านโครงการแนวราบและแนวสูงรวม 21 โครงการ มูลค่าการลงทุนสะสม 21,000 ล้านบาท สามารถตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มลูกค้า ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ในทุกโปรดักต์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทุกทำเลในภูเก็ต
ซึ่งนอกจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว แสนสิริยังมีความมุ่งมั่นตามแนวคิดการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างยั่งยืน โดยนำเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นต่าง ๆ มาผสานในการออกแบบโครงการ รวมถึงมุ่งมั่นร่วมสืบสานประเพณีสำคัญระดับโลกอย่างประเพณีถือศีลกินผักซึ่งนับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของภูเก็ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 11
ตลอดจนส่งเสริมเยาวชนในพื้นที่ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพผ่านโครงการ Sansiri Academy ที่ได้ร่วมส่งเสริมสร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็ก และเยาวชนในพื้นที่กว่า 5,000 คน เพื่อให้น้อง ๆ เยาวชนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์จากการเล่นกีฬา และพัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอลและฝึกซ้อมที่ถูกต้อง สามารถพัฒนาเป็นนักเตะมืออาชีพได้ในอนาคต ที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กที่ภูเก็ต โดยการพาอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไปร่วมลงพื้นที่ถ่ายทอดประสบการณ์ให้เด็ก ๆ อย่างต่อเนื่องในทุกปี
สำหรับแผนธุรกิจของแสนสิริที่ภูเก็ตในปีนี้ วางเป้าหมายพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบรับได้ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าในภูเก็ตได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ราคาเริ่มต้น 1.79-50 ล้านบาท พร้อมบริการ หรือ Sansiri Service รูปแบบใหม่ ที่มุ่งดูแลครอบครัวแสนสิริตลอดการอยู่อาศัย เพื่อสร้างความอุ่นใจ ปลอดภัย และสะดวกสบายในการอยู่อาศัยในโครงการแสนสิริ
โดยล่าสุด บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (บริษัทในเครือของแสนสิริที่ดูแลบริการหลังการขาย) ได้ขยายธุรกิจใหม่ Villa Management นำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ครอบคลุมบริการ Property Care Elite ดูแลทรัพย์สินแบบครบวงจร นอกจากนี้ยังมี Property Care On Demand ที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการตามความต้องการอีกด้วย
แผนธุรกิจของแสนสิริ ไม่เฉพาะการพัฒนาโครงการในภูเก็ต แต่ยังเดินหน้าภายใต้การยืนยันเจตนารมย์แนวทางการพัฒนาโครงการในภูเก็ตที่ต้องควบคู่การเดินหน้าดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ภูเก็ต
อาทิ บ้านนวัตกรรมสีเขียว ที่ประหยัดพลังงานได้, Construction Waste หรือการบริหารจัดการขยะในไซต์งานก่อสร้างให้มีน้อยที่สุดและนำกลับมาไปใช้ใหม่ได้อีกครั้งหรือใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า, การสร้างสังคมที่ยั่งยืนในภูเก็ต รวมทั้ง Sansiri Academy โครงการเสริมสร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชนที่เตรียมทำต่อเนื่อง โดยรายละเอียดโครงการใหม่ในภูเก็ตของแสนสิริเตรียมเปิดเผยต่อไป
บทความแนะนำ

Nirvana ABSOLUTE กรุงเทพกรีฑา บ้านเดี่ยว 3 ชั้น แนวคิดใหม่ ยกระดับสู่อีกขั้นของการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ บนทำเล Luxury Location ที่เพียบพร้อมทุกมิติการใช้ชีวิต
เคยได้ยินประโยคที่ว่าเราไม่ได้เลือกบ้าน แต่บ้านต่างหากที่เลือกเราไหม? และการได้ไปชมโครงการ Nirvana ABSOLUTE กรุงเทพกรีฑา ทำให้ความรู้สึกที่เคยซื้อบ้านครั้งแรกวนกลับมาอีกครั้ง อาจจะด้วยความถูกชะตา ถูกลิขิต ถูกจริต หรือถูกใจก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แต่คำตอบของสตอรี่ในครั้งนี้ที่ใครเห็นก็ไม่อาจปฏิเสธได้ คือการถูกทุกข้อของความเป็น House ที่อยู่อาศัยที่จะเติมเต็มความเป็น Home ได้สมบูรณ์แบบ สามารถส่งต่อสู่ทุกยุคทุก Generation ในทุกช่วงเวลาได้อย่างแท้จริง เพราะไม่ใช่แค่การออกแบบของสถาปัตยกรรมภายนอก ที่โครงการทุ่มเทและใส่ใจลงไปในทุกดีเทล ทั้งเรื่องของหน้าตาความสวยงาม ไปจนถึงการคัดเลือกวัสดุระดับพรีเมียม แต่ยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการดีไซน์พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ที่ให้ทุกตารางเมตรปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเป็นไปได้ทุกอย่างดั่งใจต้องการของผู้อยู่อาศัยแบบไร้ขีดจำกัด Nirvana ABSOLUTE กรุงเทพกรีฑา บ้านเดี่ยว 3 ชั้น สู่อีกขั้นของการรังสรรค์สเปซและฟังก์ชันที่มากกว่า ในราคาคุ้มค่ายิ่งกว่า ที่พร้อมซัตพอร์ตตลอดการอยู่อาศัย ► กรุงเทพกรีฑา โลเคชันที่จะเป็นตำนาน ถูกเล่าขานถึงความแพงรอบด้าน หนึ่งในโลเคชันสำหรับโครงการแนวราบ ที่เป็นกระแสฮอตฮิตในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้น กรุงเทพกรีฑา ซึ่งหากมองผ่านๆ อาจดูเหมือนว่าอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นข่าวเติบโตแบบไร้ทิศทาง ซึ่งความจริงแล้วก็มีความเจริญมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อผสมผสานทั้งสิ่งที่มีอยู่ก่อนและสิ่งใหม่ๆ ที่สร้างให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างเสร็จเรียบร้อย ทั้งถนนการเดินทาง แหล่งไลฟ์สไตล์ สถานศึกษา และสถานพยาบาล จึงทำให้ปัจจุบันราคาซื้อขายที่ดินทำเลกรุงเทพกรีฑาปรับตัวสูงขึ้นแบบทวีคูณ โดยอยู่ที่ประมาณ 120,000-140,000 บาทต่อตารางวา หรือคิดเป็นไร่ก็จะสูงถึง 56 ล้านบาทต่อไร่เลยทีเดียว และด้วยเหตุนี้รวมถึงศักยภาพที่เอ่ยมาเลยเป็นผลที่เสริมให้ที่อยู่อาศัยบริเวณนี้รายล้อมไปด้วยบ้านระดับ Luxury ขึ้นไป

ที่สุด!!! ปรากฎการณ์ระดับภูมิภาค LUXRIVA RESIDENCES บ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรี่หรูสุดในนครศรีธรรมราช SOLD OUT เฟสแรก
LUXRIVA RESIDENCES (ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส) นครศรีธรรมราช แบรนด์โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่โครงการแรกในส่วนภูมิภาค ของ บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND ประกาศปิดการขาย (Sold Out) เฟสแรกทันที ในรอบ VVIP Pre – Sale เมื่อวันที่ 17 – 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเตรียมตัวพบกับเฟสต่อไปในเร็วๆนี้ นายดำรงศักดิ์ ถุงเงิน ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND เปิดเผยว่า CP LAND สามารถประกาศปิดการขาย (Sold Out) LUXRIVA RESIDENCES นครศรีธรรมราช เฟสแรกทันที ทางคณะผู้บริหาร CP LAND ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจโครงการ LUXRIVA RESIDENCES นครศรีธรรมราชอย่างล้นหลาม มีผู้สนใจซื้อโครงการจนเกินเป้าหมาย ครั้งนี้ ถือว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญทาง CP LAND ยุคใหม่ที่ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง (High-Net-Worth Individuals) กลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จ หรือ Local Achiever และกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรีภูมิภาค ซึ่งถือเป็นการวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย มีการออกแบบดีไซน์บ้านแนวใหม่ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า และเป็นการสร้างสังคมคุณภาพของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง จุดแข็งของ LUXRIVA RESIDENCES นครศรีธรรมราช คือการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ที่ต้องการบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่ได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ภายใต้มาตรฐานการทำงานและก่อสร้างของบริษัท ที่มีการรับประกันโครงสร้างถึง 10 ปี ตลอดจนการออกแบบโครงการที่ชูดีไซน์การออกแบบโมเดิร์น ผสมผสานเอกลักษณ์ระหว่างศิลปวัฒนธรรมไทย และ วัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคใต้ โดยนำศิลปินนักออกแบบระดับประเทศ ร่วมนำเสนอภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เข้ากับความร่วมสมัย พร้อมประยุกต์ดีไซน์ในส่วนต่าง ๆ ให้เข้ากับสภาพอากาศในประเทศเขตร้อนชื้น ทำให้ผู้พักอาศัยมีสภาวะความเป็นอยู่ที่สบายที่สุด เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่คำนึงถึงทิศทางของแดด ลม ฝน ความปลอดโปร่ง ส่งผลให้กระแสลมพัดผ่านง่าย ทำให้ความร้อนในอากาศถูกระบายออกได้ดี ทำให้ผู้พักอาศัยผ่อนคลายสัมผัสความรู้สึกร่มเย็น ความสุขในการอยู่บ้าน การเปิดตลาดใหม่บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ LUXRIVA RESIDENCES นครศรีธรรมราช ปักธงหรูที่สุดในจังหวัด ราคาเริ่มต้น 12 - 20 ล้านบาท นับเป็นความท้าทายและมิติใหม่ของ CP LAND ที่เจาะฐานลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงในระดับภูมิภาค ด้วยการเลือกจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นที่แรก เนื่องจากจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เศรษฐกิจ และระดับรายได้ของประชาชนในพื้นที่ หรือ GPP อยู่ในระดับที่สูงเป็นอันดับต้นๆของภาคใต้ ตลอดจน CP LAND มีที่ดินรอการพัฒนาอยู่แล้ว และเป็นทำเลศักยภาพที่เอื้อต่อการลงทุน เป็นมิกซ์ยูส (Mixed-Use) บน ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีทั้งห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สำนักงาน CP Tower และโรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช ตลอดจนสิ่งอำนวยสะดวกครบครันต่อการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับ พร้อมตอกย้ำถึงจุดเด่นของ LUXRIVA RESIDENCES ที่มีเพดานบ้านสูง (Double Volume) บริเวณ Living Area ทุกหลัง อากาศหมุนเวียน ถ่ายเทสะดวก ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย กว้างขวาง และโดดเด่น ใช้โถสุขภัณฑ์แบบ Smart Toilet ที่จอดรถกว้างสามารถจอดได้สะดวก รวมถึงการดูแลหลังการขายจาก Welcome Home Club By CP LAND หน่วยงานด้านลูกค้าสัมพันธ์ที่ให้การบริการงานรับประกัน และดูแลสุขภาพบ้านของคุณอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่วันแรก ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเอ็กซ์คลูซีฟระดับภูมิภาคทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างเหนือระดับ และเตรียมพบกับเฟสต่อไปในเร็วๆ นี้

แสนสิริ ปักหมุด “โซนทองหล่อภูเก็ต” เตรียมพัฒนาโครงการใหม่บนทำเลบางเทา–เชิงทะเล
เปิดเผยแล้ว!! พิกัดทำเลพัฒนาโครงการของแสนสิริ ในย่านบางเทา–เชิงทะเล ซึ่งนับเป็นโซนทองหล่อ ภูเก็ต จากการเป็นทำเลยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีชายหาดที่สวยงามและเป็นหาดที่ยาวเป็นอันดับสองในภูเก็ต รวมทั้งยังมีความโดดเด่นในการเดินทางเชื่อมทำเลอื่น ๆ ของภูเก็ตได้สะดวก ตอกย้ำความแข็งแกร่ง 40 ปีแห่งความสำเร็จของแสนสิริ ที่จะเดินหน้าต่อด้วยแนวคิด Resilient Growth หรือยืนหยัด ยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่งควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสนสิริเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะ “ภูเก็ต” ซึ่งเป็น Strategic Location ของแสนสิริ จากศักยภาพของภูเก็ตในการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและเป็นจังหวัดที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย หรือ World Class Tourist Destination ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการท่องเที่ยวและแผนการพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์จากภาครัฐ แสนสิริเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาอย่างยาวนาน และได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดภูเก็ตมากว่า 15 ปี ผ่านโครงการแนวราบและแนวสูงรวม 21 โครงการ มูลค่าการลงทุนสะสม 21,000 ล้านบาท สามารถตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มลูกค้า ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ในทุกโปรดักต์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทุกทำเลในภูเก็ต ซึ่งนอกจากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว แสนสิริยังมีความมุ่งมั่นตามแนวคิดการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างยั่งยืน โดยนำเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นต่าง ๆ มาผสานในการออกแบบโครงการ รวมถึงมุ่งมั่นร่วมสืบสานประเพณีสำคัญระดับโลกอย่างประเพณีถือศีลกินผักซึ่งนับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของภูเก็ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ตลอดจนส่งเสริมเยาวชนในพื้นที่ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพผ่านโครงการ Sansiri Academy ที่ได้ร่วมส่งเสริมสร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็ก และเยาวชนในพื้นที่กว่า 5,000 คน เพื่อให้น้อง ๆ เยาวชนได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์จากการเล่นกีฬา และพัฒนาทักษะกีฬาฟุตบอลและฝึกซ้อมที่ถูกต้อง สามารถพัฒนาเป็นนักเตะมืออาชีพได้ในอนาคต ที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กที่ภูเก็ต โดยการพาอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไปร่วมลงพื้นที่ถ่ายทอดประสบการณ์ให้เด็ก ๆ อย่างต่อเนื่องในทุกปี สำหรับแผนธุรกิจของแสนสิริที่ภูเก็ตในปีนี้ วางเป้าหมายพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบรับได้ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าในภูเก็ตได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ราคาเริ่มต้น 1.79-50 ล้านบาท พร้อมบริการ หรือ Sansiri Service รูปแบบใหม่ ที่มุ่งดูแลครอบครัวแสนสิริตลอดการอยู่อาศัย เพื่อสร้างความอุ่นใจ ปลอดภัย และสะดวกสบายในการอยู่อาศัยในโครงการแสนสิริ โดยล่าสุด บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (บริษัทในเครือของแสนสิริที่ดูแลบริการหลังการขาย) ได้ขยายธุรกิจใหม่ Villa Management นำร่องที่จังหวัดภูเก็ต ครอบคลุมบริการ Property Care Elite ดูแลทรัพย์สินแบบครบวงจร นอกจากนี้ยังมี Property Care On Demand ที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการตามความต้องการอีกด้วย แผนธุรกิจของแสนสิริ ไม่เฉพาะการพัฒนาโครงการในภูเก็ต แต่ยังเดินหน้าภายใต้การยืนยันเจตนารมย์แนวทางการพัฒนาโครงการในภูเก็ตที่ต้องควบคู่การเดินหน้าดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ภูเก็ต อาทิ บ้านนวัตกรรมสีเขียว ที่ประหยัดพลังงานได้, Construction Waste หรือการบริหารจัดการขยะในไซต์งานก่อสร้างให้มีน้อยที่สุดและนำกลับมาไปใช้ใหม่ได้อีกครั้งหรือใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า, การสร้างสังคมที่ยั่งยืนในภูเก็ต รวมทั้ง Sansiri Academy โครงการเสริมสร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชนที่เตรียมทำต่อเนื่อง โดยรายละเอียดโครงการใหม่ในภูเก็ตของแสนสิริเตรียมเปิดเผยต่อไป

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทำถึง! เปิดให้ลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ Exotic ในคอนโดได้เป็นเจ้าแรกในไทย
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตัวจริงที่อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ได้ทุกโครงการ เปิด MAJOR Pet Family Residences : Exotic Pet แบรนด์แรกและครั้งแรกของไทยที่อนุญาตให้เลี้ยง “สัตว์เลี้ยงทางเลือก” ได้อย่างเป็นทางการ นำร่องโครงการแรก “เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว” เซตมาตรฐานการก่อสร้างแบบครบวงจร ทั้งดีไซน์ห้องชุดและส่วนกลางเพื่อสัตว์เลี้ยงทางเลือก พร้อมผนึกรพ.สัตว์ทองหล่อ ให้บริการและดูแลสัตว์เลี้ยงทุกประเภท คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ในช่วง 2-3 ปี มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จากข้อมูลของ TGM Research พบว่าคนทั่วโลกกว่า 58% นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว โดยเลี้ยงเพียง 1 ตัว คิดเป็น 46% แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ประเทศไทยมีอัตราเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสูงกว่าค่าเฉลี่ยเทียบเป็น 73% และนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพียง 1 ตัวต่อครอบครัวเฉลี่ย 45% แต่กลับพบกว่าคนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์ 2 ตัวต่อครอบครัวสูงถึง 23% และ 4 ตัวขึ้นถึง 24% เห็นได้ชัดว่า ประเทศไทยมีสัดส่วนคนเลี้ยงสัตว์ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทั่วโลก ทั้งในค่านิยมและปริมาณต่อครอบครัว ที่ผ่านมาเราได้ประกาศความตั้งใจที่มุ่งมั่นเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง โดยสร้างมาตรฐานใหม่ MAJOR Pet Family Residences เป็นแบรนด์แรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกบ้าน ทั้งในส่วนของกลุ่มลูกบ้านเลี้ยงสัตว์ และลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยง ซึ่งพบว่าสัดส่วนของลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์นั้น มีจำนวนที่มากขึ้นกว่าปี 2022 เป็น 45% และในจำนวนดังกล่าวเป็นสัตว์เลี้ยงทางเลือก ที่ปรากฏเข้ามา ทางเมเจอร์ฯ จึงได้เล็งเห็นถึงความนิยมที่ขยายตัวของลูกบ้าน สอดคล้องกับเทรนด์การเลือกเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทางเลือกของคนไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เราจึงพร้อมที่จะขยายขอบเขตครอบครัวเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ สู่ “MAJOR Pet Family Residences : Exotic Pet” โดยนับว่าเราเป็นแบรนด์แรกและครั้งแรกของไทยที่อนุญาตให้เลี้ยง “สัตว์เลี้ยงทางเลือก” ได้อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งขยายขอบเขตการดำเนินการทั้งในส่วนการก่อสร้างโครงการ กิจกรรมลูกบ้าน รวมทั้งการบริการและการดูแลแบบครบวงจร เริ่มต้นในด้านการก่อสร้าง และการดีไซน์ฟังก์ชันของห้องชุดและพื้นที่ส่วนกลาง ตัวอย่างโครงการ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว (METRIS District Ladprao) ที่ออกแบบโดยเน้นเรื่อง Craft & Quality ควบคู่กับฟังก์ชัน Pet-Friendly ภายใต้การคำนึงถึงคุณภาพชีวิตและสุขลักษณะที่ดีของสัตว์เลี้ยงเป็นสำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Multi-Pet Playroom พื้นที่พิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงทางเลือกที่แยกส่วนอย่างชัดเจน โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ มาร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ความรู้ เพื่อให้แบรนด์เข้าใจธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงกลุ่มนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันเราได้เตรียมดีไซน์ฟังก์ชัน เพื่อรองรับพฤติกรรมต่าง ๆ ของสัตว์เลี้ยงทางเลือกได้อย่างเหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะนำความสำเร็จของ Multi-Pet Playroom ขยายสู่โครงการอื่น ๆ ภายใต้การพัฒนา ของแบรนด์ในอนาคตมากยิ่งขึ้น ด้านข้อกำหนดและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ขยายขอบเขตของ Petscape เพื่อตอบรับกลุ่มสัตว์เลี้ยงทางเลือก โดยแบ่งออกเป็นหมวด อาทิ ประเภทของสัตว์เลี้ยง การลงทะเบียนสมาชิก พื้นที่ใช้สอย การดูแลรักษา เป็นต้น เพื่อกำหนดเเนวทางการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างสัตว์เลี้ยงทางเลือกกับลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์อื่น ๆ และลูกบ้านที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ได้อย่างสมดุลและลงตัวที่สุด รวมทั้งเตรียมขยายกิจกรรมสีสันความสนุกและสิทธิประโยชน์ความพิเศษที่มีให้กับลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงทางเลือกโดยเฉพาะ นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การบริการและการดูแลสัตว์เลี้ยง ซึ่งทางเมเจอร์ฯ มีโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เป็นพันธมิตรมาอย่างยาวนาน ซึ่งช่วยซัพพอร์ตในการบริการและดูแลสัตว์เลี้ยงทุกประเภทให้กับลูกบ้านเมเจอร์ฯ มาโดยตลอด และในครั้งนี้ยังได้ขยายความเชี่ยวชาญมายังกลุ่มใหม่อย่างสัตว์เลี้ยงทางเลือก ด้าน สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า นับเป็นความตั้งใจของโรงพยาบาลที่ต้องการรองรับและให้บริการการดูแลรักษาสัตว์ทุกประเภทให้มีสุขภาวะและสุขอนามัยที่ดี เพราะเราเชื่อมั่นว่าคนที่เลี้ยงสัตว์มองว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว โดยครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ดีที่เราได้ขยายขอบเขตความร่วมมือในการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงให้ลูกบ้านเมเจอร์ฯ มากยิ่งขึ้น ล่าสุด เราได้เปิดศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยงพิเศษ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ โรงพยาบาลสัตว์อันดับ 1 ของประเทศไทย และโรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการรักษาสัตว์เลี้ยงทางเลือก (Exotic pet) โดยสาขาแรกที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาพระราม 9 ซึ่งเป็นศูนย์ส่งต่อสัตว์ป่วย (Referral center) ที่ใหญ่ที่สุด โดดเด่นทั้งในด้านการบริการดูแลและรักษาด้วยเครื่องมือในการวินิจฉัยโรคที่ครบครัน อาทิ เครื่อง MRI และ CT Scan เป็นต้น ทางด้าน น.สพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสัตว์แอนิมอลสเปซ กล่าวว่า ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของสัตวแพทย์และบุคลากรที่ให้การดูแลและบริการด้านสัตว์เลี้ยงทางเลือกโดยเฉพาะ อาทิ กระต่าย กระรอก หนูเควี่ ชินชิล่า เป็นต้น ทำให้เจ้าของสามารถอุ่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงทางเลือกจะได้รับการดูแลวินิจฉัยและรักษาอย่างดีที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญก่อนการเริ่มต้นเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทางเลือก คือ เจ้าของต้องศึกษาวิธีการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงทางเลือกอย่างเหมาะสม ทั้งในด้านของอาหารการกิน และสถานที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับแต่ละประเภท และสุดท้าย คือ ความรับผิดชอบและความรัก ที่มีต่อสัตว์ที่เลี้ยงไม่ว่าประเภทใดก็ตาม คุณเพชรลดา กล่าวสรุปว่า “การขยายขอบเขตครอบครัว MAJOR Pet Family Residences : Exotic Pet พร้อมทั้ง ความมุ่งมั่นในการร่วมมือครั้งสำคัญของ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ No.1 Pet Family Residences และ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ No.1 Pet Hospital จะเป็นการสะท้อนภาพความตั้งใจของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ว่าเราให้ความสำคัญและใส่ใจในอินไซต์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ และต่อจากนี้เราขอสัญญาว่าเราจะยังเน้นย้ำและพัฒนาโครงการภายใต้การผนวกกลยุทธ์ Lifescape และ Petscape และมาตรฐานของ Craft & Quality เข้าไปกับ Pet-friendly function และสัญญา ว่าจะคิดถึงความสุขของคุณและน้อง ๆ เพื่อดูแลครอบครัวนี้อย่างดีที่สุดตลอดไป”